เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 มีรายงานว่า พลตรี ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจัดพิมพ์สลากงวดวันที่
16 เมษายน 2560 มียอดการพิมพ์ลดลง 120,000 เล่ม หรือประมาณ 12 ล้านฉบับคู่
แบ่งเป็นสลากจองลดลง 100,000 เล่ม สลากซื้อลดลง 20,000 เล่ม
ทำให้งวดวันที่ 16 เมษายน มีสลากออกสู่ระบบ 58 ล้านฉบับคู่
จากเดิมที่มียอดพิมพ์งวดละ 71 ล้านฉบับคู่ ทั้งนี้
เนื่องจากว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีความต้องการซื้อสลากของประชาชนลดลง
และในปีนี้ยอดลดลงกลับเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านฉบับคู่จากปีที่ผ่านมา
พลตรี ฉลองรัฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ
อยู่ระหว่างพัฒนารูปแบบสลากจากฉบับคู่เป็นฉบับเดียวราคา 80 บาท
เพื่อสะดวกกับผู้ซื้อ และจะพิมพ์รหัสคิวอาร์โค้ดลงไปในสลากทุกฉบับ
เพื่อให้ผู้ซื้อตรวจสอบได้เองผ่านสมาร์ทโฟนโดยการสแกน
นอกจากนี้จะทำลายน้ำให้เห็นชัดเจน โดยไม่ต้องยกส่องกับแสง
รวมทั้งเปลี่ยนเนื้อกระดาษและสีที่มีคุณภาพดีขึ้น
ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาสลากปลอมระบาด
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังทิ้งท้ายว่า
หลังการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งล่าสุดได้อนุมัติให้เพิ่มจำนวนโควตาสลากแก่ผู้พิการ
จากเดิมไม่เกิน 3 เล่ม เป็นไม่เกิน 5 เล่ม ตามคำเรียกร้องของสมาคมผู้พิการ
โดยจะให้ทำสัญญาช่วงเดือนมิถุนายน 2560
คาดว่าจะมีผู้พิการที่ต้องการสลากเพิ่มประมาณ 2,900 ราย
ขณะที่ แนวทางการแก้ปัญหาสลากปลอมระบาด สำนักงานสลากฯ
เตรียมนำเทคโนโลยีปรับโฉมสลากฯใหม่
โดยจะนำคิวอาร์โค้ดพิมพ์รหัสคิวอาร์โค้ดลงไปในสลากทุกฉบับ
เพื่อให้ผู้ซื้อตรวจสอบได้เอง
ด้วยการนำโทรศัพท์มือถือที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของสำนักงานสลากฯ
ขึ้นมาสแกนที่คิวอาร์โค้ด
จากนั้นระบบจะมีการอ่านข้อมูลและระบุว่าเป็นสลากจริงหรือปลอม
รวมถึงตรวจสอบตัวเลขหน้าสลากได้ด้วยว่าตรงกับที่ทางการพิมพ์ออกไป
หรือถูกแก้ไข
นอกจากนี้ จะเพิ่มการทำลายน้ำให้เห็นชัดเจนโดยไม่ต้องยกส่องกับแสง
รวมทั้งเปลี่ยนเนื้อกระดาษและสีที่มีคุณภาพดีขึ้น จากเดิมสีอมเหลือง
ซึ่งมีสภาพเหมือนสลากเก่า เป็นสีอมฟ้า หรืออมชมพู เป็นต้น
เพื่อให้ผู้ซื้อตรวจสอบและสังเกตสลากปลอมได้ง่ายขึ้น
