วันนี้(21 ก.พ.) องค์กร Human Rights Watch
ได้ตีแผ่อีกหนึ่งเรื่องราวสุดหดหู่ เป็นเรื่องของนาย ‘โจเซฟ’ ชายแก่วัย 82 ปี ที่ต้องทนเห็นลูกสาวทั้ง 2 คน
โดนแก๊งชายโฉดกว่า 50
ชีวิตรุมข่มขืนต่อหน้าต่อตาที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือ
แก๊งชายโฉดเหล่านั้นบังคับให้นายโจเซฟข่มขืนลูกสาวตัวเองด้วย
ต่อมานายโจเซฟได้ปฏิเสธ เขาจึงถูกท่อนเหล็กกระหน่ำฟาดจนคางหัก
และถูกจับถอนฟันทีละซี่ ก่อนจะถูกจับเปลื้องผ้าและโดนชาย 6 คนรุมข่มขืนด้วย
“ถ้าแกไม่ทำตามที่เราสั่ง แกก็ต้องกลายเป็นเมียพวกเราอีกคน!”
พวกแก๊งชายโฉดกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ลูกสาวคนโตของเขาติดเชื้อเอชไอวี
ก่อนจะเสียชีวิตไปเมื่อมิถุนายน 2014 ส่วนลูกสาวคนเล็กถูกทำร้ายเจ็บหนัก
และถูกยิงลูกดอกยาพิษใส่ ล่าสุดเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อพฤษภาคม 2015
เหลือไว้แต่นายโจเซฟที่ปัจจุบันยังคงต้องเจ็บปวดกับทั้งปัญหาสุขภาพกายและใจ
ขณะที่ต้องมีชีวิตอยู่ดูแลหลานๆ ด้วย
สำหรับเคนยา กว่า 900 ชีวิต ทั้งเด็ก ผู้หญิง
และผู้ชายต้องตกกลายเป็นเหยื่อกามอารมณ์ความรุนแรงต่างๆ
จากเหตุจลาจลของวัยรุ่นเลือดร้อน เนื่องจากความไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี
เมื่อปี 2007 เพียงระยะเวลาเพียง 2 เดือน มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย
1,130 ราย และประชาชนอีกนับ 6 แสนรายกลายเป็นคนไร้บ้าน